วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

Slow life Slow roads

Slow life Slow roads/สโลว์ไลท์ สโลว์ โรด

      ยามเช้า แสงแดดอ่อนๆ เสียงไก่ขัน เสียงจ้อกแจ้กจอแจของชาวบ้าน พูดคุยแววกระทบโสตประสาท โปกๆเสียงโขกพริกแกงดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ บ่งบอกถึงความหนักแน่นและความชำนาญในงานครัว 

      ชั่วครู่อึดใจ กลิ่นหมอเย้ายวนลอยปะทะจมูก เป็นสัญญาณต้องผะจากที่นอนอันแสนจะอบอุ่น สะบัดไล่ความง่วงเหงาออกจากพะวัง จัดแจงธุระส่วนตัว ชำระร่างกาย ล้างหน้าแปรงฟัน เรียกความสดชื่นพร้อมรับกับวันใหม่อันสดใส เดินตามกลิ่นแกงมายังเตาที่มีหม้อตั้งอยู่ เปิดฝาดูไอร้อนและกลิ่นหอมของแกงฮังเลก็ลอยมากระทบหน้า เสียงดังมาจากด้านหลังบอกว่าวันนี้จะทำใส่บาตรพระหน้าบ้าน สักพักแม่ก็เตรียมกับข้าว อาหารคาวหวาน น้ำดื่ม ดอกไม้ ออกมารอพระหน้าบ้าน เวลาหกโมงกว่าๆเสียงโมงๆจากฆ้องที่ลูกศิษย์วัดตัวน้อยเดินนำขบวนพระ ตีส่งสัญญาณแก่ชาวบ้านสองข้างทางบอกว่าพระสงฆ์เดินใกล้ถึงหน้าบ้านแล้ว มองดูด้านซ้ายและด้านขวาหลายบ้านก็ออกมาใส่บาตรเช่นเดียวกับบ้านเรา ต่างนิมนต์พระสงฆ์รับบาตรเมื่อถึงหน้าบ้านของตน เสียงสวดดังอย่างต่อเนื่องกว่าครึ่งชั่วโมงตามระยะทางบ้านที่ใส่บาตร ไม่มีบ้านไหนบ่นว่าช้าหรือนานเลย ต่างอยากได้ใส่บาตรให้ได้บุญกันทุกๆบ้านทุกๆคน หลังจากใส่บาตรเสร็จแล้ว

           ก็จัดแจงกับกระเพาะของตัวเองด้วยแกงฮังเลและกับข้าวอื่นๆที่แยกไว้ นั่งกินข้าวฟังเพลงที่ข้างบ้านเปิดคลอเบาจากบทเพลงของคุณจรัส มโนเพชร ศิลปินโฟคซองล้านนา แววมาว่า “อ้ายคนจน จำต้องทนปั่นรถถีบ จะไปจีบอีน้องคนงาม......” ฟังไปกินไป ค่อยๆลิ้มรสชาดฝีมือแม่ อิ่มแล้วออกมาเดินย่อยหน้าบ้านดูโน่นดูนี่ เด็กน้อยกลุ่มหนึ่งสี่ห้าคนมีทั้งเด็กเล็กและเด็กโต พี่จูงน้องตัวเล็กๆกำลังพากันเดินไปโรงเรียนทุกคนถือห่อข้าวหรือปิ่นโตอาหารสำหรับมื้อเที่ยง เด็กโตอีกกลุ่มหนึ่งก็พากันขี่รถจักรยานเรียงแถวชิดขอบซ้ายถนนเพื่อไปเรียนหนังสือ ส่วนผู้ใหญ่ที่ขี่รถมอเตอร์ไซด์หรือรถยนต์ เมื่อเห็นเด็กๆเดินหรือขี่จักรยานก็จะชะลอรถก่อนจะผ่านไป เห็นบรรยากาศแบบนี้อดไม่ได้ที่จะต้องขว้าจักรยานคันเก่าออกมาปั่นเที่ยวสักหน่อย พอเปิดประตูบานจูงจักรยานออกมาก็มีเสียงทักมาว่าจะไปไหน ยิ้มแล้วตอบว่า “กาด”(ตลาด) ไม่รู้เพราะอะไรจึงตอบแบบนี้ แต่ก็ดีทำให้มีจุดหมายเป็นกาดโดยปริยายไป 

     เริ่มปั่นจักรยานตามทางไปเรื่อยๆตามถนน เรียกเหงื่อได้พอดูหลังจากไม่ได้ปั่นจักรยานมานานหลายปี(เนื่องจากไม่ว่าจะไปไหนใกล้หรือไกลมักจะใช้รถมอเตอร์ไซด์หรือรถยนต์ตลอด)พอปั่นไปได้สักระยะกำลังก็เริ่มอยู่ตัว บวกกับแสงแดดอ่อนๆลมเย็นๆยามเช้า แปบเดียวก็ถึงตลาดเทศบาลเมืองแพร่ บรรยากาศยังครึกคักเหมือนเดิม เสียงดังจากนักปั่นน่องเหล็กผู้ชำนาญการถีบรถสามล้มที่บรรทุกทั้งผู้โดยสารและพืชผักสัมภาระเต็มรถสามล้อห้อยพะลุงพะลังที่ต้องปลุกกำลังด้วยเสียงก่อนออกตัว บิ๊บๆเสียงแตรรถโดยสารสองแถวเรียกผู้คนจากต่างอำเภอที่มาจับจ่ายในตลาดเป็นสัญญาณเรียกก่อนรถเที่ยวล้าสุดกำลังจากออก ออกจะเอะอะวุ่ยวาย สับสนแต่ผู้คนก็ยิ้มพูดจากันด้วยความสุข 

     ภาพความเป็นกันเองกับวัฒนธรรมกาดยังคงมีมนต์ขลังอยู่เสมอ แวะซื้อผักสด เนื้อสัตว์และขนมพื้นบ้าน โดยเฉพาะขนมจ๊อก(ขนมเทียนหรือขนมใส่ไส้) ไปฝากคนที่บ้าน ก็ปั่นจักรยานคันเก่าคันเก่งออกจากตลาด ลุงๆอาๆสามล้อ ช่วยบริการโปกรถเวลาจะข้ามถนนให้ ทำให้การจราจรคล่องตัวและเคลื่อนอย่างราบรื่น รถที่ผ่านไปผ่านมาต่างเข้าใจและจอดหรือชะลอเมื่อเห็น นี่คือน้ำใจบนท้องถนนที่มีให้กันและกัน ปัจจุบันจำนวนรถราจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นแต่ถนนยังมีเท่าเดิม ดังนั้นเราควรมีน้ำใจบนท้องให้แก่กันแบ่งปัน เสียสละเวลาและมีสติในการสัญจรบนถนนให้เหมือนเช่นอดีตแล้วถนนอัดแออัดก็จะยัง “Slow life Slow roads/สโลว์ไลท์ สโลว์ โรด” อยู่คู่คนแพร่และแขกผู้มาเยือนตลอดไป....










     เขียนโดย
คมสัน หน่อคำ 083-7373307

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น