วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

วังหงส์ นามสกุล หงส์



บ้านวังหงส์ เป็นชุมชนที่มีนามสกุลขึ้นต้นด้วยคำว่า “หงส์” เช่น หงส์หนึ่ง หงส์สอง หงส์สาม..... หลายคนคงสงสัยว่าจะมีนามสกุลหงส์มีถึงลำดับที่เท่าไร??? คำตอบและที่มาก็คือ เมื่อมีกฎหมายให้ทุกคนต้องมีนามสกุล ชาวบ้านที่อยู่ในบ้านวังหงส์ จึงพากันไปแจ้งชื่อสกุลของตนเอง ซึ่งคนที่ไปเป็นคนแรกเลยตั้งนามสกุลของตนเอง ว่า หงส์หนึ่ง  และคนต่อๆ มาก็ตั้งต่อๆ  กันไปเรื่อยๆ  เป็น หงส์สอง หงส์สาม จนถึง หงส์สามสิบเก้า  เลยมีนามสกุลปราบหงส์ เพื่อยุติการตั้งนามสกุลหงส์เรียงตามตัวเลข และเมื่อมีการแจ้งนามสกุลเพิ่มเติมอีก จึงเกิดนามสกุลที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า “หงส์” เช่น หงส์ทอง หงส์ร่อน หงส์เหิน ฯลฯ


โดยมีตำนานเล่าขานสืบต่อกันว่า บ้านวังหงส์”  ตั้งขึ้นมาก่อน  พ.ศ.  2440  มีอายุนับถึงปัจจุบันกว่า 200  ปี  บรรพบุรุษของชาววังหงส์เป็นผู้อพยพมาจากบ้านน้ำคือ  บ้านเชตวันและบ้านประตูมาน  ตำบลในเวียง  อำเภอเมืองแพร่  อพยพมาตั้งถิ่นฐานทำมาหากินยังบริเวณแห่งนี้ ซึ่งพื้นที่อุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับเพาะปลูก เนื่องทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านมีหนองน้ำขนาดใหญ่  น้ำใสสะอาดและระดับน้ำลึกมากชาวบ้าน จึงเรียกหนองน้ำนี้ว่า วังน้ำลึก”  ซึ่งหนองแห่งนี้เกิดจากการเปลี่ยนทางเดินของลำน้ำยม รอบหนองน้ำมีป่าขนาดใหญ่มีพืชพันธุ์นานาชนิดขึ้นอยู่หนาแน่นเขียวชอุ่มตลอดปี  และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิด  อยู่มาวันหนึ่งได้เกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นคือ  มีหงส์สีขาวบริสุทธิ์รูปร่างสวยงามมากคู่หนึ่ง   บินลงมาเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน แล้วจึงบินกลับไป  ซึ่งเป็นภาพมหัศจรรย์ที่ชาวบ้านไม่เคยพบเห็นมาก่อน  จึงได้ปรึกษากันว่าจะตั้งชื่อหนองน้ำนี้ว่า หนองหงส์”  และตั้งชื่อหมู่บ้านนี้ว่า  บ้านหนองหงส์ 

ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่  5(พ.ศ.2440)  ได้โปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติปกครองท้องถิ่นที่ออกเป็นหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น บ้านวังหงส์ จนทุกวันนี้  (สันนิษฐานว่าเกิดจากการนำคำว่า วังน้ำลึกและ หนองหงส์”  มารวมกัน)  ต่อมา (พ.ศ. 2479) ลำน้ำยมได้เปลี่ยนทางเดินกลับมาที่หนองน้ำแห่งนี้อีกครั้งหนึ่ง  ทำให้หนองน้ำกลายเป็นลำน้ำยมจวบจน  พ.ศ. 2518  ลำน้ำยมได้เปลี่ยนไปทิศทางเดิมอีกครั้ง  กรรมการพัฒนาที่ดินจึงได้จัดสรรงบประมาณพัฒนาแหล่งน้ำบริเวณหนองหงส์ขึ้นในปี  พ.ศ.  2543  ทำให้บริเวณนี้เป็นที่ร่มรื่นและเป็นแหล่งธรรมชาติอยู่จนปัจจุบันบริเวณบนฝั่งใกล้ๆ  กับหนองน้ำได้มีรูปปูนปั้นหงส์ 2  ตัวเกาะอยู่บนเสาคอนกรีต   มีรูปร่างสวยงามและสง่างามมาก  ซึ่งไม่ทราบว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างขึ้นเมื่อใด  ต่อมาเกิดการชำรุดขึ้นตามกาลเวลา  มีพ่อล่านนท์  จันต๊ะสงคราม  ได้ปั้นรูปหงส์คู่ใหม่ขึ้นแทนหงส์คู่เดิม  ต่อมาในปี 2525  ชาวบ้านวังหงส์ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างศาลาเพื่อเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นหงส์  โดยมีพ่อกี  ตื้อยศ  และครูวรเดช  ตื้อยศ  เป็นผู้ปั้น  เพื่อเป็นสัญลักษณ์และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาของชาวตำบลวังหงส์  มีการกล่าวขานกันว่า  ก่อนที่จะมีการสร้างรูปปั้นหงส์ขึ้นมานั้น ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า  เมื่อก่อนชาวบ้านอยู่ไม่เป็นสุข  มักจะมีเหตุเภทภัยเกิดขึ้นเสมอ  หลังจากได้สร้างหงส์คู่นี้แล้ว  ชาวบ้านได้จัดให้มีพิธีบวงสรวงในวันปากปีของทุกปี  (วันที่ 16  เมษายน  ของทุกปี)  และทำให้ชาวบ้านอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา  นับแต่นั้นเป็นต้นมาชาววังหงส์จึงได้จัดให้มีพิธีดำหัวหงส์ เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน
ที่มา สภาวัฒนธรรมบ้านวังหงส์/ขอบคุณรูปภาพจาก Facebook/บ้านวังหงส์


เรียบเรียงโดย นายคมสัน  หห่อคำ 083-7373307




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น