วันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2560

มะแข่วน แซ่บซ่า ราชาเครื่องเทศแห่งล้านนา

มะแข่วนแห้ง/ดิบ
     มะแขว่นเครื่องเทศแห่งเมืองเหนือที่มีรสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัว ชาวเหนือนิยมรับประทานมานานแล้ว ยอดใบอ่อนกินกับน้ำพริก ผลสดนำไปดองทานคู่กับผักแหนมกับลาบ หลู้ ส้า ส่วนเมล็ดแห้งนำไปทำน้ำพริกมะแขว่น น้ำพริกผักและที่สำคัญเป็นเครื่องเทศผสมกับลาย หลู้ ส้า หรือยำพื้นเมืองต่างๆ มะแข่วนเป็นส่วนผสมที่ช่วยดับกลิ่นคาวจากเนื้อสัตว์ มีกลิ่นหอมชวนให้อยากอาหารมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแกงอ่อมเนื้อ แกงไก่ใส่ฟัก คั่วไก่ ฯลฯ มะแข่วนเป็นไม้ยืนต้นสูง 10-15 เมตร มีกิ่งก้านสาขา ใบ ใบเดี่ยวรูปไข่ ดอก ออกเป็นช่อ ผล กลมเท่าเม็ดพริกไทย เปลือกสีแดง ออกเป็นช่อ เมื่อแก่แตกออก มีเมล็ดเล็กลมขนาดเล็ก สีดำ ผิวมัน ขยายพันธุ์ โดยใช้เมล็ด ขึ้นอยู่ตามป่าดิบบนพื้นที่ระดับต่ำไปจนถึงสูงจากระดับน้ำทะเล 500 เมตร ขึ้นไปมะแขว่นที่มีคุณภาพที่ดีและให้กลิ่นหอมควรจะอยู่ที่ระดับควมสูงตั้งแต่ 800-1400 เมตร แหล่งของมะแขว่นใหญ่ๆ จะมาจาก จ.แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา และ เชียงราย มะแขว่นจากป่าธรรมชาติถือว่าเป็นเครื่องเทศชั้นยอด โดยทั่วไปจะให้ความหอม และ รสชาติที่ดีกว่ามะแขว่นปลูกแบบเกษตรกรรม
 



     มะแข่วนเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยา เช่น ใบ รสเผ็ด แก้รำมะนาด แก้ปวดฟัน เมล็ด รสเผ็ดหอม แก้ลมวิงเวียน บำรุงโลหิต บำรุงหัวใจ ขับลมในลำไส้ ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ถอนพิษฟกบวม แก้หนองใน ราก, เนื้อไม้ รสร้อนขื่น ขับลมในลำไส้ แก้ลมเบื้องบน หน้ามือ ตาลาย วิงเวียน ขับระดู แต่ไม่ใช้กับหญิงมีครรภ์

     หลายๆ คนมักจะเข้าใจว่า มะแขว่นสามารถใช้ทดแทน พริกหอม หรือ ชวงเจียว ของจีนได้ที่เขานิยมนำมาใส่ปูอบวุ้นเส้น หรือ มาหล่า เพราะเห็นว่ามันมีลักษณะเดียวกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมะแขว่น และ พริกหอมนั้นมีลักษณะใกล้เคียงกันมากเพราะเป็นพืชในตระกูลเดียวกัน และให้รสชาติที่ซ่าลิ้นเหมือนกัน แต่ขนาดของผลและกลิ่นนั้นแตกต่างกันอย่างมาก ก็คงจะเปรียบได้กับ มะกรูด และ มะนาวของไทย อันที่จริงแล้วยังมีพืชอีกชนิดหนึ่งที่มีความใกล้ชิดกับมะแขว่นจนบางทีก็ทำให้สับสนเช่นกัน คือ มะข่วง
ที่มาข้อมูล ศูนย์สารสนเทศมหาวิทยาลัยเชียงใหม่,วิกีพีเดีย

เรียบเรียงโดย นายคมสัน  หน่อคำ
083-7373307

วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ทุเรียนจังหวัดแพร่คว้ารางวัลประเภท BEST FRUIT จากคณะกรรมการชาวเกาหลี

ประกวดผลไม้ครั้งแรก สวนนุงนุช
     ทุเรียนจากสวนอำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่คว้ารางวัลประเภท BEST FRUIT ผลไม้อร่อยที่สุดจากนักท่องเที่ยวนานาชาติ ในการประกวดสุดยอดผลไม้คุณภาพส่งออก ที่สวนนงนุช พัทยา ชลบุรี
    สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า ตามที่จังหวัดชลบุรี ร่วมกับสวนนงนุช พัทยา จังหวัดชลบุรีได้จัดงานการประกวดสุดยอดผลไม้คุณภาพส่งออก หรือ Best Fruit Export Gateway ที่สวนนงนุช พัทยา ชลบุรี ระหว่างวันที่ 22-25 มิถุนายน 2560 นั้น ผลการประกวดประเภท BEST FRUIT ผลไม้อร่อยที่สุดจากนักท่องเที่ยวนานาชาติ ซึ่งทุเรียนจากสวนนายสงบ ธรรมณี บ้านแม่จอก ตำบลแม่ป้าก อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ชนะใจกรรมการชาวเกาหลีคว้ารางวัล BEST FRUIT มาครอง






     นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ที่ปรึกษาการจัดงานการประกวดสุดยอดผลไม้คุณภาพส่งออกในครั้งนี้กล่าวว่า ไม่น่าเชื่อว่าทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองของเกษตรกรชาวอำเภอวังชิ้น จะได้รับรางวัล BEST FRUIT ในครั้งนี้ แม้จะมีทุเรียนจากสวนต่างๆในจังหวัดที่ขึ้นชื่อเข้าร่วมแข่งขัน แต่ทุเรียนของจังวัดแพร่กลับได้รับรางวัลจากการประกวดประเภท BEST FRUIT ผลไม้อร่อยที่สุดจากนักท่องเที่ยวนานาชาติ ซึ่งต่อไปนี้เราต้องหันมามอง และส่งเสริมการปลูกทุเรียนในพื้นที่อย่างจริงจัง แม้ที่ผ่านมาจะมีเกษตรกรได้นำพันธุ์ทุเรียนจากแหล่งอื่นๆดังๆมาปลูกหลายแห่ง และมักมีปัญหาเรื่องราคาตกต่ำ เช่นกล้วย ที่ผ่านมาได้มีการจัดซื้อกล้วยในพื้นที่จังหวัดแพร่มาเป็นอาหารของช้างในสวนนงนุช และต่อไปจะมีการจัดซื้อผลไม้เพื่อนำมากระจายไปยังตลาดต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในจังหวัดแพร่
     สำหรับทุเรียนของสวนนายสงบ ธรรมณี บ้านแม่จอก ตำบลแม่ป้าก อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่นั้น มีรสหวาน หอมอร่อย สีเหลืองสวยงาม ถูกปากชาวเกาหลี จึงยกรางวัล BEST FRUIT ให้ ก็จะมีการต่อยอดในการส่งเสริมการปลูก การพัฒนาให้ทุเรียนมีคุณภาพยิ่งขึ้น เสริมสร้างรายได้แก่เกษตรกรต่อไป โดยคณะสื่อมวลชนที่เดินทางไปร่วมกิจกรรมการประกวดสุดยอดผลไม้คุณภาพส่งออก ได้เป็นตัวแทนรับประกาศเกียรติคุณจากนายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุช พัทยา แทนเจ้าของสวนนายสงบ ธรรมณี

ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว

วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2560

โฮงหนังเมืองแพร่

โรงหนังแสนเมืองและโรงหนังแมนสรวง

        ย้อนถอยหลังไปประมาณ 20-30 ปี โรงภาพยนตร์ เป็นหนึ่งของความบันเทิงที่ผู้คนทุกวัยชื่นชอบ โดยเฉพาะเด็กๆ ที่จะรบเร้าผู้ปกครองให้พาไปดูหนังในวันหยุด เพราะการไปดูหนังนั้นเด็กๆ จะได้กินขนม ป๊อบคอร์น(ข้าวโพดคั่ว) และน้ำอัดลม ระหว่างดูหนังด้วย ส่วนวัยรุ่นโรงหนังก็จะเป็นแหล่งนัดพบระหว่างหนุ่มสาวที่จะนัดเจอและพูดคุยกันก่อนหนังจะเริ่มฉาย และในช่วงไหนมีหนังรักโรแมนติกเข้าฉาย หนุ่มสาวก็จะพากันตบเท้าจูงมือคู่รักบอกความในใจผ่านหนังที่ดูเปรียบตนเองเป็นพระเอกนางเอกในเรื่องที่ดูด้วยกัน สำหรับเมืองแพร่เรานั้นในอดีตมีโรงหนังด้วยกันถึงสามแห่ง คือ โรงหนังแมนสรวง,โรงหนังแสนเมือง และโรงภาพยนตร์ศรีเทพวงศ์ อยู่หลังตลาดอรทัยต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรงภาพยนตร์ธนารุ่งโรจน์ หากใครจำได้ สมัยก่อน ทางโรงเรียนจะพานักเรียนชั้นประถมศึกษา เด็กเรียงแถวไปดูกันปีละหนึ่งถึงสองครั้ง คือในช่วงวันเด็ก หรือวันสำคัญทางพุทธศาสนา หนังที่เด็กๆจะได้ดูนั้นก็เป็นการ์ตูนเกี่ยวกับพุทธศาสนา เช่น เรื่องพระพุทธเจ้า,วรรณคดีไทยต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นหนังจากประเทศอินเดีย โดยเฉพาะเรื่ององคุลีมาล กับประโยคเด็ดที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสโปรดแด่องคุลีมาลว่า “เราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด” ซึ่งเป็นคำสอนที่คุณครูมักจะนำมาสอนและขยายความให้ฟังหลังดูหนังจบ และใช่ว่าเราจะดูหนังได้แต่ที่โรงภาพยนตร์เท่านั้น ยังมีหนังขายยาที่ออกบริการฉายในพื้นที่ให้ชมกันฟรีๆ โดยคั่นเวลาหรือหยุดการชมเป็นช่วงๆ เพื่อขายสินค้ากัน ส่วนใหญ่หนังขายยามักจะมาจัดฉายตามวัดหรือ บริเวณสนามฟุตบอลตามโรงเรียนต่างๆ หนังที่ฉายส่วนใหญ่ก็จะเป็นหนังดังๆ ที่เคยเข้าฉายในโรงหนังมาก่อนแล้ว บรรยากาศของการดูหนังขายยานั้นจะแตกต่างจากการดูในโรงภาพยนตร์มากเพราะเราจะต้องเตรียมเสื่อไปปูรองนั่งระหว่างดูหนังด้วย หากใครไม่ได้เตรียมเสื่อมาก็จะมีชาวบ้านหัวใส นำหนังสือพิมพ์เก่ามาแร่ขายราคาแผ่นละห้าสิบสตางค์หรือหนึ่งบาทเพื่อรองนั่ง ส่วนรอบๆ ก็จะมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายปลาหมึกปิ้ง ลูกชิ้น และขนมต่างๆ มาคอยบริการด้วย นั่งดูหนังไปกินขนมกันไปเริ่มจะปวดท้อง มองหาห้องน้ำห้องท่าพยายามอั้นไว้ให้นานที่สุด เพราะหนังกำลังสนุกและถ้าหนังที่ฉายเป็นหนังผีก็ยิ่งต้องอั้นจนหนังจบแล้วค่อยมาถ่ายทุกข์ที่บ้านแทน และถ้าทนไม่ไหวก็จะต้องหาแนวร่วมไปยืนเฝ้าระหว่างเข้าห้องน้ำด้วย ไม่รู้เป็นเพราะอะไรห้องน้ำของวัดจะต้องอยู่ใกล้ศาลาสวดศพเกือบทุกวัดไป การดูหนังหรือภาพยนตร์ในสมัยก่อนจึงมีเรื่องราวให้จดจำมากมาย ไม่เหมือนกับยุคสมัยนี้ หากเพียงจะดูหนังก็สามารถดูผ่าน youtube, แผ่นดีวีดี, หรือสมาร์ทโฟน ได้เลย ทำให้โรงภาพยนตร์และหนังกลางแปลง หนังขายยา เริ่มหายไปจากสังคมบ้านเรา กลายเป็นเพียงภาพความทรงจำจอหนังผ้าใบสีขาว


โดย คมสัน  หน่อคำ
083-7373307

วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2560

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานศูนย์ปฏิบัติการร่วมพิทักษ์ป่าแพร่ – น่าน







     รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการร่วมพิทักษ์ป่ารอยต่อแพร่ – น่าน การดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่ากำลังเดินหน้าไปด้วยดี ประชาชนและสังคมต้องเข้ามามีส่วนร่วม พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังไม่ลืมความปลอดภัยของตัวเองในขณะปฏิบัติงาน และแสดงความเสียใจกับครอบครัวหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.13 (แม่ใสยม) ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่
     วันนี้ (16 มิถุนายน 2560) เวลา 10.30 น. พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ของศูนย์ปฏิบัติการร่วมพิทักษ์ป่ารอยต่อแพร่ – น่าน ณ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.16 (ห้วยแก๊ต) ตำบลห้วยโรง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ โดยมีนายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้, นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่, นายไพศาล วิมลรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน, พันเอกสุริยะ เอี่ยมสุโร รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 35, พลตำรวจตรียุทธชัย พัวประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่, พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการร่วมฯ

     รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ในวันนี้ได้มาตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการร่วมพิทักษ์ป่ารอยต่อแพร่ – น่าน เนื่องจากในพื้นที่แห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์มากเป็นมรดกตกทอดของบรรพบุรุษชาวแพร่ – น่าน ที่ได้ช่วยปลูกดูแลรักษามาอย่างดี แต่ก็มีกลุ่มคนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเข้ามาลักลอบตัดไม้อยู่เป็นประจำ จึงต้องมีการสนธิกำลังจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ อุทยานฯ ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และคนในท้องถิ่นร่วมกันสกัดกั้นการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ซึ่งในภาพรวมเป็นไปด้วยดี แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานระมัดระวังดูแลความปลอดภัยของตนเองในขณะปฏิบัติงานด้วย

    นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังได้ให้แนวทางการทำงาน โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือการทำงานในระดับพื้นที่ การบังคับ จับกุมผู้กระทำผิด การทำลายเส้นทางเข้าไปลักลอบตัดไม้ในป่าและเส้นทางลำเลียง และอีกส่วนหนึ่งคือการทำงานระดับอำนวยการ จะทำอย่างไรให้ขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าน้อยลง สร้างแรงจูงใจให้เลิกกระทำผิด ซึ่งประชาชนต้องมีส่วนร่วมโดยการไม่ยอมรับพ่อค้าไม้ผิดกฎหมายหรือผู้กระทำความผิด สังคมจึงจะเกิดความสงบสุข

    สำหรับกรณีของนายชัยเสน เหมืองหม้อ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.13 (แม่ใสยม) ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตขณะเข้าไปลำเลียงไม้ของกลางที่ถูกลักลอบตัดออกจากพื้นที่ป่าที่มีความลาดชันสูงนั้น ได้มอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการและสิทธิที่จะได้รับจากสวัสดิการของกรมฯ หากครอบครัวของผู้เสียชีวิตต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมก็จะได้พิจารณาต่อไป ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต่างรู้สึกเสียใจที่สูญเสียเจ้าหน้าที่ที่มีความตั้งใจในการปฏิบัติงาน ทั้งผู้บริหารของกระทรวง กรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ ก็ได้เดินทางมาให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิตและร่วมในการสวดพระอภิธรรมศพตั้งแต่เย็นวานที่ผ่านมาแล้ว

    หลังจากที่รับฟังการรายงานการดำเนินงานจากผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มอบของใช้อุปโภคบริโภคเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตรวจเยี่ยมและให้โอวาทกำลังพลจากกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ร่วมปฏิบัติงานในศูนย์ปฏิบัติการร่วมพิทักษ์ป่ารอยต่อแพร่ – น่าน พร้อมกันนี้ได้พูดคุยให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวของนายชัยเสน เหมืองหม้อ ด้วย









ข่าวโดย : ชาติชาย คะมา
หน่วยงาน : สวท.แพร่

ภาพถ่ายธรรมชาติ