วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2561

บ้านโป่งศรี





     บ้านโป่งศรีตั้งขึ้นประมาณปี พ.ศ. 1350 ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกจากตัวจังหวัดแพร่ประมาณ 7 กิโลเมตร จากคำบอกเล่าของผู้สูงอายุในหมู่บ้านเล่าว่า ณ กลางหมู่บ้านมีแอ่งน้ำขนาดเล็กอยู่ น้ำในแอ่งใสสะอาดมีน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา โดยชาวบ้านเรียกแอ่งน้ำน้ำว่า “โป่ง” เนื่องจากดินบริเวณรอบๆแอ่งน้ำนี้เป็นดินโป่ง มีรสเค็มเป็นแหล่งชุมชุนของสัตว์ต่างๆที่จะมากินดินโป่งยังบริเวณแอ่งน้ำแหล่งนี้ ป่าไม้รอบแอ่งมีความอุดมสมบูรณ์มีพันธ์ไม้มากมาย ชาวบ้านจึงมาตั้งถิ่นฐานใกล้แอ่งน้ำ เพื่อทำการล่าสัตว์และปลูกพืชโดยอาศัยน้ำจากแอ่งนี้ในการเพาะปลูก และใกล้ๆบริเวณแอ่งน้ำมี “ต้นค้ำ” เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาและใบปกคลุมแอ่งน้ำอยู่ ชาวบ้านจึงพากันเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า “โป่งค้ำ”
    

      ต่อมามีผู้คนมาอาศัยเกิดเป็นชุมชนขึ้น โดยในปี พ.ศ.1370 ชาวบ้านจึงร่วมกันสร้างวัดขึ้นชื่อว่า “วัดโป่งค้ำ” โดยใช้ชื่อเรียกตามชื่อหมู่บ้าน ต่อมาต้นค้ำได้ตายลง และมีต้นโพธิ์เกิดขึ้นมาแทนต้นค้ำที่ตายลง และเห็นว่าต้นโพธิ์ที่เกิดขึ้นได้เจริญเติบโตงอกงาม แผ่ร่วมเงาความร่วมรื่นไปทั่วและเป็นต้นไม้ทางความเชื่อทางพุทธศาสนา ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดี และต้นโพธิ์ในพุทธศาสนา จึงพากันเรียกบ้านโป่งค้ำเป็น “บ้านโป่งศรี”แทน โดยคำว่า “ศรี”นั้นมาจากต้นโพธิ์ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าต้นศรี ต่อมาจึงก็เปลี่ยนชื่อวัดโป่งค้ำเป็น “วัดโป่งศรี” และเรียกหมู่บ้านแห่งนี้ว่า “หมู่บ้านโป่งศรี” สืบต่อกันมา

       บ้านโป่งศรีอยู่ในตำบลบ้านถิ่น มีอยู่จำนวน 3 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 4,6,10 เป็นหมู่บ้านที่มีชื้อเสียงในด้านซื้อขายแลกเปลี่ยนของเก่า ทั้งที่เป็นของมีค่า และเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เฟอร์นิเจอร์จากล้อเกวียน นอก จากนั้นยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเงินโบราณ ปัจจุบันถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีตลาดค้าของเก่าและเครื่องเงินที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดแพร่......

เรียบเรียงโดย นายคมสัน   หน่อคำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น