วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ตุ๊เจ้าหัวกุด



     ตุ๊เจ้าหัวกุด,หลวงพ่อเศียรขาด เป็นชื่อเรียกของ “พระพุทธวิชิตมารประทานสันติสุขสวัสดีชินสีห์ธรรมบพิตร ” เป็นพระพุทธรูปประจำโรงเรียนป่าไม้แพร่ เป็นที่เลื่อมใสเคารพของนักเรียนป่าไม้และชาวบ้านใกล้เคียง ปัจจุบันได้ยกเลิกโรงเรียนป่าไม้แพร่ เปลี่ยนสถานะไปเป็นศูนย์อบรมและพัฒนาข้าราชการสังกัดกรมป่าไม้ กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งอยู่เลขที่ 33 ถนนคุ้มเดิม ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ เป็นพระพุทธรูป ที่สวยงาม 1 ใน 20 พระพุทธรูปของประเทศไทย

          จากคำบอกเล่าของพ่อเฒ่าคำ เล่าว่า พระพุทธวิชิตมาร สร้างขึ้นสมัยเจ้าหลวงวงศ์ลิ้นตอง เจ้าครองนครแพร่ องค์ที่ 19 (พ.ศ. 2361 - 2375) สร้างด้วยปูนขาวประทับอยู่กับพื้น หันหน้าไปทางทิศตะวันออก เป็นพระประธานของวัดเก่าชื่อ "วัดโปรดสัตว์" เนื่องจากสมัยก่อนเมื่อเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจับกุมผู้ร้ายได้ก็จะนำตัวไปประหารชีวิตจะต้องผ่านวัดนี้ นักโทษก็จะได้กราบบูชาก่อนถูกตัดหัวประหารชีวิต เมื่อพระภิกษุในวัดพบเห็นนักโทษก็มักจะเข้ามาสอบถามว่ามีโทษหนักร้ายแรงขนาดไหน ถ้าเห็นว่าโทษนั้นไม่ร้ายแรงมากนักพระภิกษุจะขอบิณฑบาตไว้ แต่ถ้าเป็นโทษหนักก็จะปล่อยเลยตามเลย ทำให้ผู้กระทำผิดหลายคนหลุดพ้นจากการประหารชีวิต วัดแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า "วัดโปรดสัตว์" ต่อมาพระพุทธรูปได้ทรุดโทรมลง เนื่องจากได้มีผู้ไปตัดเศียรพระพุทธรูป เพื่อจะค้นหาข้าวของมีค่าหรือพระเครื่อง ซึ่งเข้าใจว่าบรรจุไว้ในองค์พระ เมื่อไม่พบจึงได้ขุดที่ฐานอีกและได้ทิ้งร่องรอยดังปรากฏอยู่ ทำให้เศียรพระพุทธรูปหล่นอยู่ที่หน้าพระพุทธรูป ทำให้มีการเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “หลวงพ่อเศียรขาดเมืองแพร่”หรือ “หลวงพ่อหัวกุด"

       "หนานขัด" แขลา (วงศ์ แขลา) อดีตเคยทำงานในคุ้มเจ้าหลวงนครเมืองแพร่ ได้เล่าว่าสมัยบวชเป็นเณร เมื่ออายุได้ 14 ปี เข้าไปเก็บผลไม้ คือ มะหลอดหรือส้มหลอด หลังป่าทึบของกำแพงเมือง ซึ่งมีเชิงเทินไว้สำหรับรบพุ่งข้าศึกและมีประตูกำแพงลอดออกไปข้างนอกได้ ประตูนี้เรียกว่า "ประตูมาร" ปัจจุบันได้ขุดเป็นถนนจากบ้านพระนอนไปสู่วิทยาลัยเทคนิคแพร่ ได้พบพระพุทธรูปองค์หนึ่งมีลักษณะสง่างามมากมีพระวรกายและพระพักตร์ขาวตลอด มีพระเกศเป็นมวยผมอยู่ด้วย ห่มจีวรสไบเฉียงสีทอง มีสายระย้าห้อยเป็นพู่เรียงกันอยู่ที่ปลายสไบ ฐานเป็นรูปบัวคว่ำบัวหงายสลับกัน บันทึกของหนานขัด ยังได้กล่าวว่า เคยชวนพวกเณรด้วยกันเข้าไปทำวัตรค่ำที่นั่นเสมอ และเคยได้พยายามเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปองค์นี้ไปไว้ในวัดพระนอน แต่กระทำไม่ได้ เนื่องจากมีน้ำหนักมาก และเมื่อปี พ.ศ.2511 โรงเรียนป่าไม้แพร่ โดยนายณรงค์ กฤตานุกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนและคณะศิษย์เก่าโรงเรียนป่าไม้แพร่ ได้บูรณะพระพุทธรูปองค์นี้ โดยการระดมทุนจากศิษย์เก่าและงบประมาณจากกรมป่าไม้ พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วย นายรัตน์ พนมขวัญ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนป่าไม้แพร่ เป็นประธาน การบูรณะดังกล่าวได้กระทำกันถึง 2 ครั้ง รวมทั้งการต่อเศียรพระพุทธรูปองค์นี้เป็นแบบสุโขทัยปางสะดุ้งมาร ส่วนการตั้งชื่อพระพุทธรูปนั้น สมเด็จพระสังฆราชอริยวงศาคตญาณ วัดมกุฏกษัตริยาราม ประทานนามว่า "พระพุทธวิชิตมารประทานสันติสุข สวัสดีชินสีห์ธรรมบพิตร" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และทุกวันที่ 21มกราคม ของทุกปี ศิษย์เก่าโรงเรียนป่าไม้แพร่ จะจัดงานทำบุญพระพุทธวิชิตมาร มีความเชื่อกันว่า คนที่ประกอบสัมมาชีพแล้ว แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ด้วยอาจมีมารผจญคอยขัดขวางความเจริญก้าวหน้าไป ทำให้เล่าสืบต่อกันว่า ให้มากราบไหว้องค์พระพุทธวิชิตมาร ด้วยความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์พระ จะช่วยกำจัดสิ่งชั่วร้ายที่มาแผ้วพานเราให้หมดไปทันที

ที่มาข้อมูล วีกีพีเดีย,เว็ปไซด์วังฟ่อนดอทคอม

เรียบเรียงโดย นายคมสัน   หน่อคำ
083-7373307

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น