ข้าวห่อคนเมือง
โดย นายคมสัน หน่อคำ
ในอดีตการเดินทางสัญจรนั้นไม่สะดวกสบายเหมือนสมัยนี้
จะไปไหนแต่ละครั้งก็ต้องเดินไป หากมีฐานะก็จะขี่ม้า
หรือนั่งวัว-ความเทียมเกวียนกันไป แต่ส่วนใหญ่ก็จะ By The Foot ใช้เท้าของใครของมันออกย้ำเดินกันไป ระยะทางใกล้ๆก็จะสบายหน่อยใช้เวลาเดินชั่วครู่เดียวหรือข้าวยังไม่ย่อยก็จะถึงจุดหมาย
แต่มีความจำเป็นต้องเดินระยะทางไกลๆเป็นเวลาข้ามวันข้ามคืนก็จะสร้างความลำบากไม่ใช่น้อยสำหรับปากท้องแน่นอน
เมื่อหิวก็คงแวะร้านสะดวกซื้อหรือร้านข้างทางเหมือนปัจจุบันไม่ได้
ดังนั้นเวลาจะเดินทางไกลนั้นจะต้องเตรียมห่อข้าวไปด้วย โดยห่อข้าวเหนียวด้วยใบตองตึงหรือใบตองแล้วมัดด้วยตอก
ส่วนกับข้าวนั้น อาหารที่จะใส่มานั้นก็จะเป็นจำพวกอาหารแห้ง เนื้อเค็ม
น้ำพริกเป็นหลัก เพราะง่ายและสะดวกในการเก็บรักษาในระหว่างเดินทางกัน
และที่สำคัญที่สุดที่จะต้องมีคือเกลือไว้สำหรับเป็นเครื่องปรุง หรือถ้าจำเป็นต้องเดินทางเป็นแรมเดือนก็จะนำเครื่องแกงติดไปด้วย
ส่วนส่วนประกอบหลักๆของชาวล้านนาก็จะมีหอมแดง กระเทียม พริก แห้งหรือพริกสด ข่า ขมิ้น ตะไคร้ กะปิ ปลาร้า
เกลือ เป็นต้น สำหรับกะปินั้น
ในอดีตนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากเพราะเป็นผลิตผลจากทะเล
ในล้านนาจึงใช้ถั่วเน่าเป็นเครื่องชูรสแทนกะปิ ซึ่งถั่วเน่า
นั้นมีอยู่สองประเภทคือ “ถั่วเน่าเมอะ” และถั่วเน่าแผ่นหรือที่เรียกว่า
“ถั่วเน่าแข็บ”
ซึ่งถั่วเน่าเป็นอาหารของชาวไทใหญ่
ทำมาจากถั่วเหลือง โดยนำเอาเมล็ด ถั่วเหลืองแห้งมาแช่น้ำ
ล้างทำความสะอาดแล้วนำไปต้มจนถั่วสุก จากนั้นจึงนำ ไปบ่มไว้ในกระบุงหรือตะกร้าที่รองไว้ด้วยใบตองตึงแล้วปิดด้วยใบตองหรือฝาหม้อ
หมักไว้เพื่อให้เชื้อจุลินทรีย์ช่วยในการหมัก มักจะหมักไว้ประมาณ 2-3 วัน ก็จะได้ถั่วเน่าเมอะที่มีรสชาติอร่อยอ และหากนำถั่วเน่าเมอะไปคลึงจนเป็นแผ่นบาง
ตากแดดจนแห้งจะเรียกว่า “ถั่วเน่าแข็บ” เอาไปย่างไฟกินกับข้าวเหนียวอุ่นๆ
ก็ได้ หรือจะเอาข้าวเหนียวจิ้ม ถั่วเน่าเมอะ กินก็ได้
เมื่อจะทำอาหาร
เช่น ประเภทแกงก็สามารถใช้ถั่วเน่าเมอะหรือถั่วเน่าแข็บตำผสมกับเครื่องปรุงอื่นๆ
ก็ได้เช่นกัน สำหรับอาหารของชาวล้านนานั้น มักจะออกรสเค็ม มากกว่ารสชาติอื่น ไม่นิยมรสหวานมากนัก
ส่วนใหญ่แล้วความ
หวานของอาหารมักจะได้จากความหวานของผักและจะไม่นิยมใส่เนื้อสัตว์มากนัก โดยจะใส่ผักหลายๆชนิดแล้วแต่จะหาได้ในระหว่างการเดินทาง เพราะสมัยก่อนป่าอุดมสมบูรณ์ นก หนู กา ไก่ และสัตว์ต่างๆเมื่อกินพืชผักแล้วก็จะเที่ยวบินหรือหากินไปเรื่อยในระหว่างนั้นก็จะขับถ่ายออกมา ทำให้เมล็ดพันธุ์ที่กินข้าไปนั้นแพร่กระจายทั่วไป โดยเฉพาะพริกป่าที่มีมากเป้นพิเศษ และใช่ว่าจะมีแต่สัตว์ที่ช่วยแพร่พันธุ์พืชผักต่างๆ ชาวล้านนาเองเมื่อเดินทางก็จะไปชมทุ่งกัน โดยจะชมกันก็ในป่าหรือข้างทางที่เดินกันไปนั้นละ.....สำหรับเรื่องห่อข้าวคนเมืองนั้น ยังมีปรากฏในวรรณกรรมในเรื่องลิลิตพระลอก็มีกล่าวถึง ติดตามต่อได้ในฉบับหน้ากับ “ข้าวห่อลิลิตพระลอ”
หวานของอาหารมักจะได้จากความหวานของผักและจะไม่นิยมใส่เนื้อสัตว์มากนัก โดยจะใส่ผักหลายๆชนิดแล้วแต่จะหาได้ในระหว่างการเดินทาง เพราะสมัยก่อนป่าอุดมสมบูรณ์ นก หนู กา ไก่ และสัตว์ต่างๆเมื่อกินพืชผักแล้วก็จะเที่ยวบินหรือหากินไปเรื่อยในระหว่างนั้นก็จะขับถ่ายออกมา ทำให้เมล็ดพันธุ์ที่กินข้าไปนั้นแพร่กระจายทั่วไป โดยเฉพาะพริกป่าที่มีมากเป้นพิเศษ และใช่ว่าจะมีแต่สัตว์ที่ช่วยแพร่พันธุ์พืชผักต่างๆ ชาวล้านนาเองเมื่อเดินทางก็จะไปชมทุ่งกัน โดยจะชมกันก็ในป่าหรือข้างทางที่เดินกันไปนั้นละ.....สำหรับเรื่องห่อข้าวคนเมืองนั้น ยังมีปรากฏในวรรณกรรมในเรื่องลิลิตพระลอก็มีกล่าวถึง ติดตามต่อได้ในฉบับหน้ากับ “ข้าวห่อลิลิตพระลอ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น