ห่อลิลิตพระลอ
เรียบเรียงโดย นายคมสัน หน่อคำ
“ข้าวห่อลิลิตพระลอ”
ปรากฏในวรรณกรรมเรื่องลิลิตพระลอ ซึ่งเป็นเรื่องราวโศกนาฏกรรมแห่งความรักระหว่างพระลอเจ้าชายรูปงามกับพระเพื่อนพระแพง
โดยเรื่องมีอยู่ว่า ในอดีตกาลนานเท่าใดไม่ปรากฏ มีเมืองใหญ่เมืองหนึ่งชื่อ “แมนสรวง” มีเจ้าเมืองคือ
“ท้าวแมนสรวง”
ซึ่งมีพระโอรสองค์หนึ่งนามว่า “พระลอ” พระวรกายงดงามจนเป็นที่เลื่องลือไปไกลทั่วทุกสาระทิศ
กล่าวถึงเมืองสรอง(ปัจจุบัน คือ อ.สอง จ.แพร่)ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองแมนสรวงเจ้าเมืองสรองชื่อ ท้าวไชยพิษณูกร มีพระราชธิดาฝาแฝด พระนามว่า “พระเพื่อน-พระแพง” ราชธิดาทั้งสองมีพระสิริโฉมที่งดงามเกินกว่าสตรีใดในหล้าจะสวยเทียมเท่า วันหนึ่งมีนักขับเพลงพเนจร ได้นับเพลงชมความงามของพระลอว่ามีรูปโฉมงามหล่อดุจเทพพระบุตร เมื่อพระเพื่อน-พระแพง ได้ฟังก็ทรงเคลิบเคลิ้มหลงรักพระลอ พระพี่เลี้ยงของสองพระนาง คือ นางรื่นและนางโรยจึงได้พยายามหาวิธีต่างๆเพื่อจะให้ทั้งสองพระธิดาสมหวังในความรัก จึงได้ปรึกษากันไปเฝ้าปู่เจ้าสมิงพราย ร้องขอให้ปู้เจ้าสมิงพรายดลใจให้พระลอเดินทางมายังเมืองสรองให้ได้ ปู่เจ้าฯได้นั่งยามตรวจดูแล้วเห็นว่าเป็นบุพกรรมแต่ปางก่อนของสามกษัตริย์ จึงรีบให้ความช่วยเหลือดลใจให้พระลอร้อนใจต้องเดินทางมายังเมืองสรอง
กล่าวถึงเมืองสรอง(ปัจจุบัน คือ อ.สอง จ.แพร่)ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองแมนสรวงเจ้าเมืองสรองชื่อ ท้าวไชยพิษณูกร มีพระราชธิดาฝาแฝด พระนามว่า “พระเพื่อน-พระแพง” ราชธิดาทั้งสองมีพระสิริโฉมที่งดงามเกินกว่าสตรีใดในหล้าจะสวยเทียมเท่า วันหนึ่งมีนักขับเพลงพเนจร ได้นับเพลงชมความงามของพระลอว่ามีรูปโฉมงามหล่อดุจเทพพระบุตร เมื่อพระเพื่อน-พระแพง ได้ฟังก็ทรงเคลิบเคลิ้มหลงรักพระลอ พระพี่เลี้ยงของสองพระนาง คือ นางรื่นและนางโรยจึงได้พยายามหาวิธีต่างๆเพื่อจะให้ทั้งสองพระธิดาสมหวังในความรัก จึงได้ปรึกษากันไปเฝ้าปู่เจ้าสมิงพราย ร้องขอให้ปู้เจ้าสมิงพรายดลใจให้พระลอเดินทางมายังเมืองสรองให้ได้ ปู่เจ้าฯได้นั่งยามตรวจดูแล้วเห็นว่าเป็นบุพกรรมแต่ปางก่อนของสามกษัตริย์ จึงรีบให้ความช่วยเหลือดลใจให้พระลอร้อนใจต้องเดินทางมายังเมืองสรอง
ครั้นได้ฤกษ์พระลอ จึงเข้าไปปลอบและอำลามเหสี
แม่นมและเหล่าสนมกำนัน ยิ่งก่อเกิดความโศกเศร้าอาลัยอาวรณ์ไปทั่วทั้งวัง
แม่นมของพระลอชื่อ นางศรีเพ็ญ
ได้ทำข้าวห่อให้ด้วยความเป็นห่วงว่าระหว่างเดินทางหนทางจะทุรกันดาร เพราะกลัวว่าพระลอจะหิวและอดอยาก
จึงได้จัดเตรียมห่อข้าวไว้ให้เสวยระหว่างทางยามหิว ห่อข้าวนั้นห่อด้วยใบตองตึง
ภายในมีข้าวเข็มทอง(ข้าวเหนี่ยว)เป็นข้าวพันธุ์ดี จิ้นปิ้ง น้ำพริก
ไข่ต้มและผักลวก ระหว่างเดินทางมาเมืองสรอง
พระลอได้นำข้าวห่อมาเสวยและรำลึกนึกถึงความห่วงใยของแม่นมที่ได้เลี้ยงดูตนเองมาตั้งแต่ครั้นเป็นทารกจนกระทั่งเติบใหญ่
หยิบข้าวเข็มทองที่แม่นมเคยป้อนที่ละคำๆ ก็อดรำพันคิดถึงแม่นมผู้คอยเฝ้าเลี้ยงดูมาแต่อ้อนแต่อ้อดไม่ได้
ด้วยลักษณ์ห่อข้าวดังกล่าว
ชาวบ้านได้ยึดถือเป็นแบบอย่างในการห่อข้าวสำหรับการเดินทาง
ปัจจุบันข้าวห่อดังกล่าว ก็คือข้าวเหนี่ยวพันธุ์เข็มทอง แต่เนื่องจากว่าแม่นมของพระลอไม่มีผัว จึงมีการเรียกล้อเลียนเป็นข้าวคานทอง จึงเป็นเหตุให้เกิดมีการเรียกหญิงสาวที่ไม่ได้แต่งงานว่า “ขึ้นคาน” เกิดเป็นตำนานข้าวห่อลิลิตพระลอ และคำเรียกหญิงสาวที่ไม่แต่งงานว่าขึ้นคานรวมถึงข้าวสายพันธุ์เข้มทองที่ถูกเรียกว่า “ข้าวคานทอง”
การทำห่อข้าวลิลิตพระลอ จะมีการห่อเป็นชั้นๆ ชั้นนอกใช้ใบตองตึงห่อสำหรับห่อกับข้าวต่างๆรวมกัน ชั้นในประกอบด้วยไข่ต้ม 1 ฟอง เกลือ 4 ห่อ น้ำพริกตาแดง 1 ห่อ จิ้นย่าง(หมู,เนื้อ,ปลา)ข้าวเหนียวหนึ่งห่อ ส่วนผักนั้นแต่เดิมสามารถหาเก็บระหว่างทาง แต่ปัจจุบันนิยมห่อรวมกันไปเลย
ข้อมูลจาก ตำนานลิลิตพระลอ รวบรวมโดย อบต.บ้านกลาง อ.สอง จ.แพร่
ปัจจุบันข้าวห่อดังกล่าว ก็คือข้าวเหนี่ยวพันธุ์เข็มทอง แต่เนื่องจากว่าแม่นมของพระลอไม่มีผัว จึงมีการเรียกล้อเลียนเป็นข้าวคานทอง จึงเป็นเหตุให้เกิดมีการเรียกหญิงสาวที่ไม่ได้แต่งงานว่า “ขึ้นคาน” เกิดเป็นตำนานข้าวห่อลิลิตพระลอ และคำเรียกหญิงสาวที่ไม่แต่งงานว่าขึ้นคานรวมถึงข้าวสายพันธุ์เข้มทองที่ถูกเรียกว่า “ข้าวคานทอง”
การทำห่อข้าวลิลิตพระลอ จะมีการห่อเป็นชั้นๆ ชั้นนอกใช้ใบตองตึงห่อสำหรับห่อกับข้าวต่างๆรวมกัน ชั้นในประกอบด้วยไข่ต้ม 1 ฟอง เกลือ 4 ห่อ น้ำพริกตาแดง 1 ห่อ จิ้นย่าง(หมู,เนื้อ,ปลา)ข้าวเหนียวหนึ่งห่อ ส่วนผักนั้นแต่เดิมสามารถหาเก็บระหว่างทาง แต่ปัจจุบันนิยมห่อรวมกันไปเลย
ข้อมูลจาก ตำนานลิลิตพระลอ รวบรวมโดย อบต.บ้านกลาง อ.สอง จ.แพร่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น