วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2562

กบกินเดือน



      เมื่อเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาหรือ “กบกินเดือน” ชาวล้านนาก็จะนำไม้มาเคาะกับกะลา สังกะสี กระป๋องต่างๆหรือปี๊ป ให้เกิดเสียงดังรัวๆๆๆ เพื่อจะให้กบที่กำลังกินเดือนอยู่นั้นตกใจและปล่อยเดือนให้ส่องแสงนวลตามเดิม คนเฒ่าคนแก่ก็จะคดข้าวเหนียวมาปั้นแล้วคลุกกับเขม่าไฟให้ดำ มีกล้วยสุกและอ้อย นั่งอธิษฐานแล้วเอาวางไว้ข้างๆก้อนเส้าในครัว เพื่อบูชาปู่ดำ ย่าดำ ให้ทุกคนในบ้านอยู่เย็นเป็นสุข ขณะที่ลูกเด็กเล็กแดงก็จะสนุกไปกับการตีเกราะและบีบตุ๊กตายางให้มีเสียงดังแป๊บๆๆๆๆๆๆ และบ้านไหนที่มีต้นขนุนก็จะเอามีดมาสับต้นขนุนดังสวบสาบ และพูดว่าออกหน่วยเยอะๆ ตามความเชื่อหรือนิทานที่ชาวล้านนาเล่าขานสืบต่อกันมาว่า


        สมัยอดีตกาลอันไกลโพ้น มีครอบครัวหนึ่ง ตั้งบ้านเรือนอยู่นอกเมือง ครอบครัวนี้มีอยู่ด้วยกัน 4 คน คือ พ่อ แม่ ลูกสาวสองคน ในสมัยนั้นถ้าครอบครัวไหนมีลูกสาวก็จะได้รับการอบรมเรื่อง ภายในบ้านเกี่ยวกับการเป็นแม่บ้านที่ดี เช่น การจัดการบ้านการเรือน ความประพฤติ กิริยามารยาท ตลอดจนการทำอาหาร จนที่สุดทั้งสองคนก็สามารถที่จะทำเรื่องต่างๆเหล่านั้นได้อย่างชำนาญ

        วันหนึ่ง พ่อแม่บอกให้ลูกสาวทั้งสองคนไปทำอาหารเพื่อจะได้ทดสอบดูฝีมือ ทั้งสองคนก็เข้าไปในครัวแล้วช่วยกันทำอาหารจนเสร็จ แล้วทดลองชิมดูรสอาหารของกันและกัน แต่ว่ารสอาหารที่ทำนั้นไม่ถูกปากซึ่งกันและกัน ทั้งสองจึงโต้เถียงกันจนอดกลั้นไม่ไหว พี่สาวจึงเอาป้าก (ทัพพี) ฟาดหน้าน้องสาว ส่วนน้องสาวก็เอาสาก (ไม้ตีพริก) ฟาดหน้าพี่สาวของตัวเอง ต่อสู้กันจนตายคาที่

     เมื่อทั้งสองตายไป ยมบาลได้นำเอาวิญญาณไปพิพากษาและตัดสินว่า “ทั้งสองนี้ได้ทำการอันน่าบัดสีมาก สมควรจะได้ตกนรกทั้ง 7 ชั้น” เมื่อตกนรกไปแล้วก็ให้คนพี่ไปเกิดเป็นเดือน/ตะวัน ส่วนคนน้องไปเกิดเป็นกบ เมื่อทั้งสองไปเกิดแล้ว ก็ยังอาฆาตกันอยู่อีก เมื่อใดที่ได้มีโอกาสพบกันเข้าอีก ความอาฆาตแค้นก็เกิดขึ้น คนน้องจึงได้อ้าปากคาบเดือน/ตะวัน คนพี่ไว้ในปาก ฝ่ายชาวบ้านชาวเมืองเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้เมื่อใดก็เกิดความสงสารเดือน/ตะวัน ก็จะช่วยกัน ตีเกราะ เคาะไม้ ไล่ให้กบตกใจจะได้ปล่อยเดือน/ตะวัน ออกมา

ที่มาข้อมูลจาก www.astroeducation.com, www.openbase.in.th


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น