วันพุธที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2560

ต้องเดินถึงจะแพร่ : Must walk to reach Phrae

ขอบคุณภาพบรรยากาศสวยๆในเมืองแพร่จาก thetravelerz

     วันนี้จังหวัดแพร่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก โดยส่วนมากจะมาเที่ยวแบบทัวร์คือนั่งรถโดยสารมากันเป็นหมู่คณะ แวะเที่ยวตามจุดต่างๆ แต่ความจริงแล้วการที่จะเที่ยวเมืองแพร่แล้วให้เข้าถึงความเป็น “เมืองแป้ แท้จริงแล้วมีมากมายหลายวิธี อย่างเช่น รถรางที่สามารถให้บริการนำนักท่องเที่ยวชมเมืองและแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองเก่า ที่สามารถให้บริการเป็นหมู่คณะ ครั้งละ 20-30 คนต่อคัน ใช้เวลาประมาณครึ่งวันก็สามารถเที่ยวได้เกือบทั่ว แต่ถ้าหากมากันเป็นกลุ่มเล็กๆ ประมาณ 6-7 คน ก็ต้องเที่ยวในสไตล์ “นั่งสามล้อผ่อเมืองแป้” โดยมีนักปั่นน่องเหล็กคอยให้บริการปั่นให้นั่งชมเมืองได้เช่นกัน และถ้าอยากจะออกกำลังด้วยขาของตนเองก็สามารถหาเช่ายืมจักรยานถือแผนที่ปั่นเที่ยวเองก็ได้เช่นกัน ซึ่งการเที่ยวแบบนี้ก็มีเสน่ห์ตรงที่สามารถไปไหนก็ได้ด้วยตัวเอง แต่หากคุณต้องการจะเป็นส่วนหนึ่งของเมืองแพร่แท้จริงแล้วก็ต้องเที่ยวด้วยสองขาแบบเดิน สไตล์แบ็คแพ็คสะพายเป้ เดินถือแผนที่เที่ยว คุณจะได้พบกับสิ่งใหม่ๆ ถนนสายใหม่ที่ไม่รู้จัก สังคมใหม่ ผู้คนหลากหลาย สัมผัสวัฒนธรรม ศิลปะ ประเพณี ชีวิตความเป็นอยู่ ที่คุณจะประสบด้วยตัวคุณเอง แท้จริงแล้วเมืองแพร่มีอะไรมากว่าที่คุณเห็นจากหน้าในกระดาษแนะนำการท่องเที่ยว เพียงใช้สองขาออกก้าวเดิน พูดคุย ทักทาย และการสื่อสารที่ดี ง่ายที่สุดในโลกคือรอยยิ้ม ยกตัวอย่างเช่น ชาวต่างชาติเดินเข้ามาถามเส้นทาง ลุง ป้า น้า อา พี่หนาน ก็สามารถบอกทางได้หมด ยิ้มบ้าง ชี้มือ ชี้ไม้บ้าง อู้เมียงผสมฝาหรั่ง เกิดเป็นสำเนียงใหม่แบบ (Language city) เพียงรู้ภาษาอังกฤษเล็กน้อยไม่ว่าจะเลี้ยวซ้าย (turn left) เลี้ยวขวา (Turn right) หรือ ตรงไป (go straight) เลยทำให้ทุกวันนี้เกิดธุรกิจโฮมสเตย์มากมาย ทำให้สามารถเดินเที่ยวได้ สามารถพบเจอกับวัฒนธรรมความเป็นอยู่ ที่ยังดำรงคงเดิมกับสายกาลเวลาที่ไหลผ่านเรื่องราวที่ประพฤติปฏิบัติสืบต่อกันมา เช่น ยามเช้าเพียงคุณตื่นมาก็สามารถเดินไปจับจ่ายซื้อของที่ตลาด (กาดหมั๊ว) หรือเดินชิลๆ รับละอองไอหมอก ก็จะพบเห็นผู้คนออกมายืนรอพระเพื่อใส่บาตรที่หน้าบ้าน ฟังเสียงพระสวดเป็นจังหวะ ช่างเป็นบุญที่อิ่มใจ สำหรับผู้ใส่บาตรและผู้พบเห็นเหลือเกิน บางเทศกาลคุณอาจจะได้พบกับเสียงสวดภาษาคำเมืองที่ดังลอดรั้วจากพ่ออาจารย์ที่ท่องสวดบูชาท้าวทั้งสี่ (เทพารักษ์ผู้เฝ้าดูแลรักษาชีวิต ป้องกันภัยต่างๆ มิให้กล้ำกรายผู้คนที่อยู่อาศัยในบ้านที่ชาวล้านนานับถือ) สาวท้าวก้าวเดินต่อไป ชีวิตยามเช้าเริ่มเปลี่ยนเป็นการสัญจรเพื่อทำกิจวัตรประจำวันของแต่ละคน เด็กๆ ไปโรงเรียนเพื่อเรียนหนังสือ ผู้ใหญ่รีบไปทำงาน แม่ค้าขนมจีนเริ่มต้มน้ำซุปกระดูกยิ่งใกล้ยิ่งได้กลิ่นหอม โดยเฉพาะกระเทียมเจียวกากหมูที่กระตุ้นต่อมหิวจนเดินต่อไปไม่ไหวต้องแวะจอดพักขาเติมพลังกับขนมจีนน้ำใสอาหารเอกลักษณ์ของเมืองแพร่ อาจจะเช้าไปแม่ค้ายังเตรียมขายไม่เสร็จแต่ก็สามารถนั่งพูดคุยหิ้วท้องรอกันไป ชมวิธีทำขนมจีนและจีบแม่ค้าถึงเคล็ดลับความอร่อยที่เมื่อได้กินขนมจีนเมืองแพร่แล้วจะไม่มีวันลืม เมื่อบรรจุท้องก็พาสองขาเดินเที่ยวต่อไปเพราะ “ต้องเดินถึงจะแพร่ : Must walk to reach Phrae”
เขียนโดย คมสัน  หน่อคำ
083-7373307

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น